ศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศสหรัฐอเมริกา


ค้นหาหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษ (ESL)


มีที่ไหนที่ดีต่อการไปเรียนภาษาอังกฤษมากไปกว่าประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น “แผ่นดินแห่งโอกาส”?

มีนักศึกษาจำนวนหลายพันคนเดินทางเข้ามาศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศสหรัฐอเมริกาทุกปี หลายคนเข้ามาศึกษาภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยหรือระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศนี้ บางก็มาศึกษาภาษาอังกฤษไปพร้อมกับเก็บเกี่ยวประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบอเมริกันชน บางก็มาเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษเพื่อความพัฒนาในอาชีพของตน แต่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม พวกเขาได้เข้ามาทำการศึกษาภาษาอังกฤษ ได้รับความสนุกสนาน ได้รับประสบการณ์และเรียนรู้วัฒนธรรมจากหลายชนชาติ และพบเพื่อนใหม่จากทั่วทุกมุมโลก

เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ มีชุมชนในเมืองใหญ่และชุมชนในชนบท วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยก็มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ซึ่งเป็นทั้งของเอกชนและของรัฐบาล ดังนั้น การเลือกที่เรียนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณจึงเป็นก้าวแรกที่จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จที่คุณได้ตั้งไว้ในการเข้ามาทำการศึกษาภาษาอังกฤษที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อไปนี้เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการเลือกที่เรียน:

หลักสูตรการเรียนการสอนของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย

วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกาเสนอหลักสูตรติวเข้มภาษาอังกฤษแบบเต็มเวลา ซึ่งหลักสูตรติวเข้มภาษาอังกฤษส่วนใหญ่นั้นนักศึกษาต้องใช้เวลาทำการศึกษาในชั้นเรียน 20-25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และตามเงื่อนไขของการขอวีซ่านักเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกานั้น นักศึกษาต้องทำการศึกษาในชั้นเรียนเป็นเวลาอย่างน้อย 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ดังนั้น นักศึกษาจึงเริ่มทำการศึกษาตั้งแต่วันแรกของภาคการศึกษา (เทอม หรือ ควอเตอร์)

ข้อได้เปรียบของหลักสูตรนี้คือ นักศึกษาสามารถเข้าพักอาศัยในหอพักนักศึกษาของวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยได้ และยังสามารถเข้าใช้ห้องสมุด สถานที่พักผ่อน สถานที่เล่นกีฬา และเครื่องอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งนักศึกษายังมีโอกาสได้ทำการฝึกฝนพูดภาษาอังกฤษกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในหอพักนักศึกษาเดียวกันหรือในเวลาที่อยู่ในโรงอาหาร

ในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยบางแห่ง นักศึกษาภาษาอังกฤษที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับก้าวหน้าอาจสามารถลงเรียนหลักสูตรวิชาบางหลักสูตรของมหาวิทยาลัยได้ในระหว่างที่กำลังศึกษาภาษาอังกฤษอยู่ และข้อดีอีกข้อของการศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษ (ESL) ของวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยก็คือว่า นักศึกษาที่ถือวีซ่านักเรียนประเภท F-1 อาจสามารถสมัครขอทำงานในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยได้มากถึง 20ชั่วโมงต่อสัปดาห์

สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับหลักสูตรภาษาอังกฤษนี้ก็คือ หลักสูตรภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษาของวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย ดังนั้นคุณจะไม่ได้หน่วยกิตการศึกษาผ่านการศึกษาหลักสูตรนี้ และนักศึกษาที่ลงเรียนหลักสูตรนี้อาจไม่ได้รับการยอมรับเข้าศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่วิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยนั้น

และอีกอย่างก็คือ วิทยาลัย มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยชุมชนของรัฐบาลส่วนใหญ่จะคิดค่าเล่าเรียนต่ำกว่าวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยของเอกชน

หลักสูตรภาษาอังกฤษของสถาบันสอนภาษาเอกชน

โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษของเอกชนบางแห่งก็เปิดทำการเรียนการสอนเพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาในการเข้าไปศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาเหมือนกัน และในสถาบันสอนภาษาเอกชนบางแห่งนั้น นักศึกษาอาจสามารถลงเรียนหนึ่งหรือสองหลักสูตรวิชาของวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับสถาบันสอนภาษาได้อีกด้วย สถาบันและโรงเรียนสอนภาษาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ใกล้กับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย บางแห่งตั้งอยู่ในตึกสำนักงาน ในห้าง หรือในตึกโรงเรียนของตัวเอง นอกเจากนี้โรงเรียนสอนภาษาเหล่านี้บางแห่งก็มีที่พักให้นักศึกษาพักอาศัยด้วย

ตารางการเรียนการสอนของโรงเรียนสอนภาษาเอกชนโดยมากจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าของทางวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยเมื่อเอามาเปรียบเทียบกัน และภาคการศึกษาอาจเริ่มทุก ๆ สองถึงสามอาทิตย์ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่มองหาหลักสูตรภาษาอังกฤษแบบระยะสั้น

นอกจากนี้สถาบันสอนภาษาเอกชนยังเสนอหลักสูตรภาษาอังกฤษ ( ESL) แบบช่วงเวลาพักผ่อน โดยการให้นักศึกษาเรียนรู้ภาษาอังกฤษไปพร้อมกับการท่องเที่ยวในสถานที่ที่น่าสนใจต่าง ๆ หรือให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม

การเลือกหลักสูตรวิชาเรียนที่เหมาะสมกับคุณ

การค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ เป็นสิ่งจำเป็นก่อนที่คุณตัดสินใจเลือกโรงเรียนของคุณ คุณต้องค้นหาคำตอบของคำถามที่คุณมีอยู่ และต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับคุณ ในขณะที่คุณทำการค้นหาโรงเรียนที่คุณต้องการนั้น คุณสามารถเข้าไปดูรายชื่อของโรงเรียนต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของ Study in the U.S.A. ซึ่งในเว็บไซต์นี้ คุณสามารถที่จะเข้าไปดูข้อมูลของโรงเรียนต่าง ๆ ที่คุณสนใจได้ในภาษาที่คุณต้องการ และทำการติดต่อทางโรงเรียนได้โดยตรงผ่านทางอีเมล กรุณาเข้าไปที่ StudyUSA.com

นอกจากนี้ คุณสามารถค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ ของโรงเรียนได้ที่ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อใกล้บ้านคุณ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลแหล่งใหญ่ และมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์คอยช่วยแนะนำโรงเรียนต่าง ๆ ให้ตามความสนใจของคุณ

คุณสามารถเข้าไปดูรายชื่อและค่าเล่าเรียนของโรงเรียนที่เป็นสมาชิกของ UCIEP และ AAIEPได้ที่เว็บไซต์ขององค์กร ซึ่งทางองค์กรจะลงข้อมูลต่าง ๆ ของโรงเรียนสมาชิกเอาไว้ที่นั้น

คุณกำลังจะเริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นและให้รางวัลแก่คุณ ดังนั้นคุณควรเลือกโรงเรียนของคุณด้วยความระมัดระวัง เพื่อประสบการณ์ที่ดีในการศึกษาและความสำเร็จในอนาคตของคุณ

องค์กรรับรองวิทยฐานะของสถาบันการศึกษาและสถาบันวิชาชีพ

การรับรองวิทยฐานะของสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษช่วยรับประกันคุณภาพของสถาบันการศึกษา เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 เป็นต้นไป นักศึกษาจะได้รับเอกสารเกี่ยวการขอเข้าเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาก็ต่อเมื่อสถาบันที่นักศึกษาได้เลือกที่จะเข้าไปทำการศึกษานั้นได้รับการรับรองวิทยฐานะจากตัวแทนที่ได้รับมอบหมายก่อน ซึ่งในขณะนี้มีหลายสถาบันได้เริ่มทำตามกฎหมายฉบับนี้

สถาบันสอนภาษาอังกฤษที่อยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยได้รับการรับรองวิทยฐานะจากองค์กรในภูมิภาคที่สถาบันตั้งอยู่ แต่มีหลายสถาบันที่ต้องการการรับรองวิทยฐานะจากองค์กรอื่นด้วยเพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพที่สูงของสถาบันและทำให้สถาบันมีเกียรติมากขึ้น

หลักสูตรอิสระเหล่านี้ต้องได้รับการรับรองวิทยฐานะจากตัวแทนดังต่อไปนี้:

คณะกรรมการรับรองวิทยฐานะการสอนภาษาอังกฤษ (CEA)

เป็นผู้รับรองวิทยฐานะสถาบันสอนภาษาอังกฤษในประเทศสหรัฐอเมริกา สถาบันใดที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจาก CEA ถือว่าเป็นสถาบันที่มีคุณภาพทั้งทางด้านการสอนภาษาอังกฤษและความเป็นสถาบันสอนภาษาครบทุกประการตามมาตรฐานของ CEA คุณสามารถเข้าไปดูรายการมาตรฐานของ CEA และรายชื่อของสถาบันที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจาก CEA ได้ที่ cea-accredit.org

สมาคมผู้รับรองวิทยฐานะสถาบันการศึกษาเฉพาะทางและสถาบันวิชาชีพ (ACCET)

เป็นผู้รับรองวิทยฐานะสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรการศึกษาเฉพาะทางและหลักสูตรวิชาชีพ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ACCET ได้ที่ accet.org มีสององค์กรสำคัญของหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษที่กำหนดกฎเกณฑ์คุณภาพสำหรับสถาบันที่เป็นสมาชิกไว้สูง อย่างไรก็ตามองค์กรเหล่านี้ไม่ได้ทำการรับรองวิทยฐานะสถาบันแต่อย่างใด

สมาคมผู้รับรองวิทยฐานะมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ(UCIEP)

มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองวิทยฐานะแล้ว สามารถสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมนี้ได้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยจะต้องผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวดของ UCIEP และการเยี่ยมชมสถาบัน ก่อนที่จะได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิก อีกทั้งทาง UCIEP ยังจัดให้มีการประชุมสัมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการประเมินหลักสูตรการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกอยู่เป็นประจำ เพื่อช่วยทำให้มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยมีคุณภาพการเรียนการสอนที่สูงตามมาตรฐานของ UCIEP อยู่ตลอดเวลา

ดูรายชื่อของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองจาก UCIEP ได้ที่ uciep.org

สมาคมสถาบันสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษของประเทศสหรัฐอเมริกา (AAIEP)

เป็นอีกสมาคมที่กำหนดมาตรฐานของสถาบันสอนภาษาอังกฤษผู้เป็นสมาชิกไว้สูง เริ่มต้นด้วยการสร้างมาตรฐานขึ้นมาสำหรับหลักสูตรภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ ทั้งนี้ทางสมาคมไม่ได้รับรองวิทยฐานะสถาบันแต่อย่างใด แต่สถาบันที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามกฏเกณฑ์และมาตรฐานที่ทางสมาคมกำหนดไว้ด้วยตนเอง

ดูรายชื่อสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของ AAIEP ได้ที่ uciep.org

 

วิธีการเลือกโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ

ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงในการเลือกหลักสูตรวิชาเรียน:

  1. • คำนึงถึงประเภทของวิชาเรียนที่คุณต้องการเรียน

  2. ถามตัวเองว่าต้องการเรียนหลักสูตรวิชาที่ไม่หนักและได้ท่องเที่ยวไปด้วยหรือว่าหลักสูตรวิชาเพื่อการศึกษาอย่างจริงจัง คุณต้องการที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษหรือไม่ หรือว่าคุณต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอเมริกันและท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกา

  3. คำนึงถึงงบประมาณที่คุณต้องการจะใช้จ่ายกับค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ากิจกรรม ค่าหนังสือ ฯลฯ

  4. คุณต้องการจะเรียนที่ไหน? ในเมืองใหญ่หรือเมืองเล็กในชนบท? อยากอยู่ใกล้กับญาติที่อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกาไหม? หรือว่าคุณมีสถานที่เจาะจงในประเทศนนี้ที่คุณอยากจะไปอยู่แล้ว? และสภาพภูมิอากาศมีความสำคัญกับคุณมากน้อยแค่ไหน? เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงมีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละที่

  5. คุณต้องตัดสินใจว่าคุณอยากจะใช้เวลาศึกษาในห้องเรียนสัปดาห์ละกี่ชั่วโมง?

  6. ค้นหาข้อมูลของอาจารย์ผู้สอนว่ามีประสบการณ์ในการสอนภาษามากน้อยแค่ไหน มีคุณวุฒิในการสอนภาษาหรือไม่ จบปริญญาโทด้านการสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ (MATESOL) หรือจบปริญญาโทในสาขาที่เกี่ยวข้องหรือไม่?

  7. ขนาดของชั้นเรียน มีนักศึกษาทั้งหมดกี่คน? หนึ่งห้องเรียนควรจะมีนักศึกษาระหว่าง 10-15 คน

  8. ตรวจดูวันที่ที่ทำการเรียนการสอนว่าคุณสามารถไปเข้าเรียนในช่วงเวลาที่โรงเรียนกำหนดได้หรือไม่?

  9. คุณจะพักที่ไหนในระหว่างทำการศึกษา? ทางโรงเรียนมีที่พักให้หรือช่วยหาที่พักให้คุณหรือไม่? คุณอยากจะพักอยู่ในหอพักนักศึกษากับนักศึกษาชาวอเมริกัน พักอยู่ในบ้านของครอบครัวชาวอเมริกัน(โฮมสเตย์) พักที่โรงแรมหรือว่าเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ และควรคำนึงง่าที่พักของคุณอยู่ห่างจากโรงเรียนมากน้อยแค่ไหน?

  10. คุณจะเดินทางไปโรงเรียนอย่างไร? ค่าโดยสารไป-กลับเท่าไหร่ และใช้เวลาในการเดินทางนานแค่ไหน?

  11. การจัดสรรในเรื่องอาหารเป็นอย่างไร? ค่าอาหารเท่าไหร่?

  12. ทางโรงเรียนเสนอการบริการให้กับนักศึกษาหรือไม่ เช่น การไปรับที่สนามบิน อาจารย์ที่ปรึกษาแนะแนวให้กับนักศึกษาชาวต่างชาติ การจัดงานปฐมนิเทศให้นักศึกษาใหม่ ฝาก-ถอนเงินได้ที่ธนาคารไหน การดูแลนักศึกษาในเวลาเจ็บป่วย และมีฝ่ายปกครองนักศึกษาหรือไม่?

  13. มีกิจกรรมพิเศษนอกเหนือจากในหลักสูตรหรือไม่? มีสโมสรหรือทีมนักกีฬาให้เข้าร่วมไหม? มีห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ หรือสนามเทนนิสให้นักศึกษาใช้บริการไหม? และสิ่งเหล่านี้มีจำเป็นสำหรับคุณมากน้อยแค่ไหน?

  14. ที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ที่ไหน? เป็นโรงเรียนขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่? มีนักศึกษาทั้งหมดจำนวนกี่คน?

  15. ทางโรงเรียนให้ความช่วยเหลือนักศึกษาในการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยหรือไม่? และถ้านักศึกษากำลังทำการศึกษาอยู่ในระดับก้าวหน้า นักศึกษาสามารถลงเรียนวิชาของวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้เคียงได้หรือไม่?

  16. โรงเรียนได้รับการรับรองวิทยฐานะหรือไม่? หลักสูตร ESL ของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลายแห่งได้รับการรับรองวิทยฐานะจากทางวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่หลักสูตร ESL ของสถาบันสอนภาษาเอกชนนั้นจะได้รับการรับรองวิทยฐานะจากสมาคมและองค์กรผู้รับรองวิทยฐานะแห่งอื่น